วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556
วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556
เทคนิค การเลือกซื้อ กระเป๋าเดินทาง
1. ล้อ
ล้อที่ดีที่สุดควรเป็นล้อยางทั้งลูก ชนิดที่มีตลับลูกปืน ตัวล้อควรฝังอยู่ภายใน กระเป๋าเดินทาง โดยเฉพาะกระเป๋าเดินทางที่ไว้ใต้ท้องเครื่องบินเพราะจะป้องกันการเสียของล้อ ได้ สำหรับ กระเป๋าเดินทาง ที่นำติดตัวขึ้นเครื่องบิน ควรดูขนาดให้ถูกตามกฎเกณฑ์ของสายการบินที่เค้ากำหนดไว้
2. หูหิ้ว
หูหิ้วแบบยืดหด
ควรติดตั้งและยึดเกาะกับกระเป๋าได้เป็นอย่างดี ถ้าเป็นแบบพับ ก็ต้องแนบติดกับตัวกระเป๋าเดินทาง เพื่อป้องกันความเสียหายของเสาคันชัก เวลาเราชักเข้าชักออก
3. Denier (หน่วยวัดความแข็งแรงของผ้า)
Denier เป็นหน่วยของการวัดขนาดเส้นใยที่ใช้ในการทอผ้า dinier ยิ่งมากจะทำให้ผ้าหนักยิ่งขึ้น สำหรับวัสดุที่นำมาทอเป็นผ้าก็ให้ความแข็งแรงแตกต่างกันด้วย เช่น polyester 1800 denier แข็งแรงกว่า Polyester 1200 denier แต่แข็งแรงน้อยกว่า ballistic nylon 1050 denier โดยทั่วไป ตามสายการบินจะไม่ยอมรับความเสียหายกับ กระเป๋าเดินทาง ที่ทำด้วยผ้า 600-700 denier
4. การรับประกัน
กระเป๋าเดินทาง ทุกยี่ห้อ จะรับประกันก็ต่อเมื่อ มีความเสียหายที่เกิดจากการ ผลิต เท่านั้น เช่น ซิปผิดปกติ รอยเย็บเบี้ยว หูลากหลุดหรือน็อตหลุด การรับประกันส่วนใหญ่จะเป็นของผู้ผลิต ไม่ใช่เป็นของร้านที่ขาย ดังนั้นไม่ควรไปเชื่อกับการรับประกันของร้านมากนัก เวลาเลือกซื้อควรตรวจตรา ดูองค์ประกอบต่างๆให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสิ้นใจซื้อเสมอ
5. การซื้อ กระเป๋าเดินทาง เป็นการลงทุนไม่ใช่ความสิ้นเปลือง
การคุ้มค่าในการลงทุนซื้อ กระเป๋าเดินทาง ขึ้นอยู่กับอายุของการใช้งานของ กระเป๋าเดินทาง ถ้าคุณจ่ายเงินสองเท่าเพื่อซื้อกระเป๋าเดินทางที่มีอายุใช้งานนานขึ้น 4 ปี ก็ถือว่าคุ้มค่า แต่อย่าลืมค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมด้วยนะจ้ะ
6. ไม่ต้องกังวลว่า กระเป๋าเดินทาง ใบใหญ่กว่าจะหนักมากกว่า
สิ่งของที่คุณจะบรรจุลงในกระเป๋าเดินทางอาจมีน้ำหนักประมาณ 20-30 กก. แต่น้ำหนักกระเป๋าเดินทางที่ใหญ่เล็กต่างกัน 4-6 นิ้ว อาจมีน้ำหนักต่างกันเพียงครึ่งกิโลเท่านั้น และคุณจะรู้ว่าถ้ากระเป๋าเดินทางไม่พอคุณต้องซื้ออีกใบที่ น้ำหนักอย่างต่ำก็ ประมาณ 3-4 กก. ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองเพิ่มขึ้นอีก มองดูแล้วมันไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย
7. กระเป๋าเดินทาง ใหญ่ก็ไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไป
คนทั่วไปจะบรรจุสิ่งของลงใน กระเป๋าขนาด 26 นิ้วได้พอดี ดังนั้นก็ไม่ควรใช้กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่กว่านี้ โดยเฉพาะถ้าคุณมีปัญหาเรื่องการยกของหนัก เช่น ปวดหลัง หรือปวดแขน
8. อย่าไปยึดติดกับยี่ห้อ
คนทั่วไปจะคุ้นเคยกับชื่อ Samsonite และ american tourister เพราะเป็นเจ้าแรก ๆ ที่ขายมานาน แต่ก็ยังมีหลายยี่ห้อที่คุณภาพก็ใช้ได้ เช่น travelpro eminent echolac delsey หรือแม้แต่ Blue light, Valentino, Miracle, Dandy ลองเลือกการใช้งานต่างๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ ดีกว่า ที่จะเน้นหนักไปที่ยี่ห้อนะคะ
9. ซื้อ กระเป๋าเดินทาง กับร้านที่มีความรู้ด้านกระเป๋าจริงๆ
เพราะ กระเป๋าเดินทาง เดี๋ยวนี้ไม่ใช่มีหน้าที่แค่บรรจุสัมภาระเท่านั้น อย่าไปกลัวที่จะถามคนขาย เกี่ยวกับความทนทาน หน้าที่การทำงานต่างๆ การบริการหลังการขาย
ที่มา : http://travel.mthai.com/travel_tips/45245.html
ล้อที่ดีที่สุดควรเป็นล้อยางทั้งลูก ชนิดที่มีตลับลูกปืน ตัวล้อควรฝังอยู่ภายใน กระเป๋าเดินทาง โดยเฉพาะกระเป๋าเดินทางที่ไว้ใต้ท้องเครื่องบินเพราะจะป้องกันการเสียของล้อ ได้ สำหรับ กระเป๋าเดินทาง ที่นำติดตัวขึ้นเครื่องบิน ควรดูขนาดให้ถูกตามกฎเกณฑ์ของสายการบินที่เค้ากำหนดไว้
2. หูหิ้ว
หูหิ้วแบบยืดหด
ควรติดตั้งและยึดเกาะกับกระเป๋าได้เป็นอย่างดี ถ้าเป็นแบบพับ ก็ต้องแนบติดกับตัวกระเป๋าเดินทาง เพื่อป้องกันความเสียหายของเสาคันชัก เวลาเราชักเข้าชักออก
3. Denier (หน่วยวัดความแข็งแรงของผ้า)
Denier เป็นหน่วยของการวัดขนาดเส้นใยที่ใช้ในการทอผ้า dinier ยิ่งมากจะทำให้ผ้าหนักยิ่งขึ้น สำหรับวัสดุที่นำมาทอเป็นผ้าก็ให้ความแข็งแรงแตกต่างกันด้วย เช่น polyester 1800 denier แข็งแรงกว่า Polyester 1200 denier แต่แข็งแรงน้อยกว่า ballistic nylon 1050 denier โดยทั่วไป ตามสายการบินจะไม่ยอมรับความเสียหายกับ กระเป๋าเดินทาง ที่ทำด้วยผ้า 600-700 denier
4. การรับประกัน
กระเป๋าเดินทาง ทุกยี่ห้อ จะรับประกันก็ต่อเมื่อ มีความเสียหายที่เกิดจากการ ผลิต เท่านั้น เช่น ซิปผิดปกติ รอยเย็บเบี้ยว หูลากหลุดหรือน็อตหลุด การรับประกันส่วนใหญ่จะเป็นของผู้ผลิต ไม่ใช่เป็นของร้านที่ขาย ดังนั้นไม่ควรไปเชื่อกับการรับประกันของร้านมากนัก เวลาเลือกซื้อควรตรวจตรา ดูองค์ประกอบต่างๆให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสิ้นใจซื้อเสมอ
5. การซื้อ กระเป๋าเดินทาง เป็นการลงทุนไม่ใช่ความสิ้นเปลือง
การคุ้มค่าในการลงทุนซื้อ กระเป๋าเดินทาง ขึ้นอยู่กับอายุของการใช้งานของ กระเป๋าเดินทาง ถ้าคุณจ่ายเงินสองเท่าเพื่อซื้อกระเป๋าเดินทางที่มีอายุใช้งานนานขึ้น 4 ปี ก็ถือว่าคุ้มค่า แต่อย่าลืมค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมด้วยนะจ้ะ
6. ไม่ต้องกังวลว่า กระเป๋าเดินทาง ใบใหญ่กว่าจะหนักมากกว่า
สิ่งของที่คุณจะบรรจุลงในกระเป๋าเดินทางอาจมีน้ำหนักประมาณ 20-30 กก. แต่น้ำหนักกระเป๋าเดินทางที่ใหญ่เล็กต่างกัน 4-6 นิ้ว อาจมีน้ำหนักต่างกันเพียงครึ่งกิโลเท่านั้น และคุณจะรู้ว่าถ้ากระเป๋าเดินทางไม่พอคุณต้องซื้ออีกใบที่ น้ำหนักอย่างต่ำก็ ประมาณ 3-4 กก. ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองเพิ่มขึ้นอีก มองดูแล้วมันไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย
7. กระเป๋าเดินทาง ใหญ่ก็ไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไป
คนทั่วไปจะบรรจุสิ่งของลงใน กระเป๋าขนาด 26 นิ้วได้พอดี ดังนั้นก็ไม่ควรใช้กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่กว่านี้ โดยเฉพาะถ้าคุณมีปัญหาเรื่องการยกของหนัก เช่น ปวดหลัง หรือปวดแขน
8. อย่าไปยึดติดกับยี่ห้อ
คนทั่วไปจะคุ้นเคยกับชื่อ Samsonite และ american tourister เพราะเป็นเจ้าแรก ๆ ที่ขายมานาน แต่ก็ยังมีหลายยี่ห้อที่คุณภาพก็ใช้ได้ เช่น travelpro eminent echolac delsey หรือแม้แต่ Blue light, Valentino, Miracle, Dandy ลองเลือกการใช้งานต่างๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ ดีกว่า ที่จะเน้นหนักไปที่ยี่ห้อนะคะ
9. ซื้อ กระเป๋าเดินทาง กับร้านที่มีความรู้ด้านกระเป๋าจริงๆ
เพราะ กระเป๋าเดินทาง เดี๋ยวนี้ไม่ใช่มีหน้าที่แค่บรรจุสัมภาระเท่านั้น อย่าไปกลัวที่จะถามคนขาย เกี่ยวกับความทนทาน หน้าที่การทำงานต่างๆ การบริการหลังการขาย
ที่มา : http://travel.mthai.com/travel_tips/45245.html
วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556
กระเป๋าเป้ 3 และวิธีการเลือกซื้อกระเป๋าเป้
กระเป๋าเป้
วิธีการเลือกซื้อกระเป๋าเป้
เรื่องโดย หญิงเหล็ก , มีนาคม 2003
ในตลาดทั่วไปมีเป้ดีๆ อยู่หลายยี่ห้อ ผู้ผลิตแต่ละรายก็ล้วนแล้วแต่ทุ่มเท ค้นคว้า ออกแบบและผลิตเป้ที่มีคุณภาพออกมาทั้งนั้น แต่สิ่งสำคัญนั้นอยู่ที่ว่าเป้แต่ละใบนั้น ต่างก็เหมาะสำหรับผู้ใช้แต่ละคนแตกต่างกันออกไปนั่นเอง ดังนั้น เป้ที่ดีคือเป้ที่เราสะพายแล้วรู้สึกสบายที่สุด นอกจากเราควรจะต้องลองสะพายเป้ด้วยตัวเองในเวลาเลือกซื้อ เพื่อให้มั่นใจว่ามีความเหมาะสมกับตัวเราแล้ว นอกจากนี้ยังมีข้อควรพิจารณาอื่นๆ อีกหลายอย่าง ดังนี้
1. ความจุของตัวเป้ (Capacity of the Pack)
ก่อนอื่นควรจะต้องรู้ว่าคุณมักจะเดินทางท่องเที่ยวลักษณะใด เดินป่าระยะสั้นหรือเดินป่าครั้งละเป็นสัปดาห์ สภาพอากาศหนาวหรือร้อน จำเป็นต้องเอาอุปกรณ์กันหนาวหรืออุปกรณ์พิเศษอื่นๆ ติดตัวไปด้วยหรือไม่ หรือว่าคุณต้องแบกอุปกรณ์ทำครัวหรือของส่วนกลางมากน้อยเพียงใด แต่ข้อสำคัญอย่างหนึ่งคือ ไม่ควรซื้อเป้ที่มีขนาดใหญ่เกินความต้องการ เพราะโดยทั่วๆ ไปแล้ว ธรรมชาติของคนเรา หากมีที่เหลือก็มักจะใส่ของเพิ่มเข้าไปอีกเรื่อยๆ จนกว่าจะเต็ม ซึ่งอาจจะทำให้คุณต้องแบกสัมภาระหนักเกินไปทั้งๆ ที่ไม่ได้มีความจำเป็นมากมายเลยก็ได้
30-50 ลิตร | เป้ขนาดนี้เหมาะสำหรับการเดินป่าท่องเที่ยวในระยะ สั้นๆ เช่น การท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือการท่องเที่ยวไปในเส้นทางที่ไม่จำเป็นต้องแบกอุปกรณ์พิเศษอะไรเข้าไปมาก นัก นอกจากถุงนอนใบเล็กๆ เต็นท์หรือเปล และอุปกรณ์ทำอาหารทั่วๆ ไป |
50-70 ลิตร | สำหรับคนที่ต้องการเดินป่ามากกว่าในระยะเวลาประมาณ 2-4 วัน ควรจะลองพิจารณาเป้ขนาดนี้ดูเพราะเพียงพอที่จะใส่อุปกรณ์ทุกอย่างที่จำเป็น สำหรับการเดินป่าในช่วงเวลานั้นๆ ได้ และเป้ไซส์นี้ก็เป็นที่นิยมสำหรับผู้หญิงที่จะใช้ในการเดินป่าหลายๆ วันด้วยเช่นกัน |
70-100 ลิตร | เป้ขนาดใหญ่นี้ เหมาะสำหรับที่จะใช้บนเส้นทางที่ยาวนานเป็นสัปดาห์ขึ้นไป หรือสำหรับผู้ที่ต้องเตรียมถุงนอนใบใหญ่หรือเสื้อกันหนาวหนาๆ ไปด้วย แต่สำหรับอากาศในบ้านเราอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เป้ขนาดใหญ่ขนาดนี้ก็ได้ |
ความจะของเป้ขึ้นกับการใช้งาน |
เป้บางรุ่นจะสามารถปรับระดับได้ |
- เป้ที่สามารถปรับระดับได้เต็มที่ (Fully Adjustable Suspension) ซึ่งเราจะสามารถเลื่อนระดับสายสะพายบ่าขึ้นลงในระดับใดก็ได้ให้พอเหมาะกับ ขนาดลำตัวของเราได้เป็นอย่างดี โดยมักจะปรับระดับลำตัวได้ตั้งแต่ 14 – 21 นิ้ว
- เป้ที่สามารถปรับระดับได้ตามช่วงที่กำหนดไว้ (Certain Size Ranges) ซึ่งมักจะแบ่งออกเป็นขนาดเล็ก (14-16 นิ้ว) กลาง (17-19 นิ้ว) และใหญ่ (20 นิ้วขึ้นไป)
3. ขนาดความยาวของลำตัว (Torso Size)
เหตุที่เราจำเป็นจะต้องพิจารณาเรื่องขนาดความยาวของลำตัวของ เราในเวลาเลือกซื้อเป้ด้วยนั้น ก็เนื่องจากในปัจจุบัน ผู้ผลิตมักจะออกแบบเป้มาให้ช่วยในการผ่อนแรงและอำนวยความสะดวกกับผู้ใช้มาก ขึ้นเรื่อยๆ หากเราใช้เป้ที่มีขนาดใหญ่เกินไป จะทำให้สายรัดสะโพกไม่อยู่ในระดับที่ควรจะเป็น คือจะอยู่ต่ำกว่าสะโพกเรามากเกินไป ซึ่งจะทำให้ไม่ช่วยในการผ่อนน้ำหนักได้เลย และอาจจะยังทำให้เป้กระแทกหลังเราตลอดเวลาที่เดินอยู่ด้วย หากเป้มีขนาดเล็กเกินไป สายสะพายบ่าก็อาจจะรัดช่วงบ่าเนื่องจากความกว้างช่วงบ่าอาจจะเล็กเกินไปจนทำ ให้เกิดการบาดเจ็บได้ และเป้อาจจะรั้งและถ่วงไปด้านหลังมากเกินไปอีกด้วย
โดยปรกติแล้วความยาวของลำตัวตามมาตรฐานของเป้ที่มีจำหน่ายจะมีอยู่ 3 ขนาดคือ
- ขนาดเล็ก ไม่เกิน 17.5 นิ้ว
- ขนาดกลาง 18-19.5 นิ้ว
- ขนาดใหญ่ มากกว่า 20 นิ้ว
การวัดความยาวลำตัว |
4. ทดลองปรับระดับการสะพายเป้ (Adjusting the Suspension)
ตำแหน่งสายรัดสะโพก |
ส่วนที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือสายสะพายบ่า ควรจะเลือกเป้ที่เมื่อลองสะพายดูแล้ว สายสะพายแต่ละข้างอยู่ในระดับกึ่งกลางกระดูกไหปลาร้าพอดี หากเป้มีช่วงกว้างที่แคบเกินไปจะทำให้เมื่อสะพายแล้วสายสะพายบ่าจะอยู่ชิด กับคอมากเกินไป จะรู้สึกรำคาญในขณะเดินและยังทำให้ปวดกล้ามเนื้อบริเวณบ่าอีกด้วย หากเป้มีช่วงกว้างมากเกินไปก็อาจจะทำให้เป้มักจะเลื่อนหลุดได้ง่ายๆ และยังไม่ช่วยรับน้ำหนักได้อีกด้วย
6. วัสดุที่ใช้ทำเป้ (Materials)
วัสดุที่ใช้ผลิตเป้ส่วนใหญ่มักจะเป็นวัสดุที่กันน้ำ และจะต้องเป็นวัสดุที่แข็งแรงทนทาน แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องมีน้ำหนักเบาอีกด้วย ที่นิยมกันมากคือ Cordura และ Ripstop ซึ่งแบบ Ripstop นี้ หลายๆ คนลงความเห็นว่ามีความแข็งแรงทนทานต่อการขีดข่วนได้มาก สำหรับในบริเวณที่คาดว่าจะมีการขีดข่วนหรือเสียดสีมากๆ ก็จะเปลี่ยนไปใช้ไนล่อนที่มีความแข็งแรงทนทานมากขึ้นไปอีก เช่น Ironcloth, Spectra และ Pack Cloth นอกจากนี้ เป้ส่วนใหญ่ยังมีบางบริเวณที่ทำจากตาข่ายยืดหรือโฟมที่มีการระบายอากาศสูง เพื่อช่วยให้แผ่นหลังของเรามีการระบายอากาศได้ดีขึ้น
ข้อพึงระวัง
ในการเลือกซื้อเป้ทุกครั้ง คุณควรจะต้องได้ลองสะพายและสัมผัสด้วยตนเอง หากเป็นไปได้ไม่ควรจะซื้อผ่านอินเทอร์เน็ตโดยยังไม่ได้ลองสะพายดูก่อน แต่หากคุณจะซื้อผ่านอินเทอร์เน็ตก็ควรจะแน่ใจด้วยว่าร้านนั้นมีนโยบายที่จะ ให้ลูกค้าคืนสินค้าหรือเปลี่ยนได้
ที่มา : http://www.mrbackpacker.com/gear/gear_34.html
วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556
กระเป๋าเป้ 2
กระเป๋าเป้ แบรนด์เนม
กระเป๋าเป้
Pack Up a Picnic Backpack
1,825฿
Pack Up a Picnic Backpack
1,825฿
กระเป๋าเป้
TOPSHOP Safari
Zoo Backpack
1800฿
TOPSHOP Safari
Zoo Backpack
1800฿
กระเป๋าเป้
Landmarks That I
Love Backpack
1400฿
Landmarks That I
Love Backpack
1400฿
กระเป๋าเป้
Pieces Milje
Quilted Backpack
1500฿
Pieces Milje
Quilted Backpack
1500฿
กระเป๋าเป้
Pack in the Groove Bag
2200฿
Pack in the Groove Bag
2200฿
กระเป๋าเป้
MiPac Mi Pac
Vintage Floral Print
1200฿
MiPac Mi Pac
Vintage Floral Print
1200฿
วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556
กระเป๋าเป้ 1 และ วิธีดูแลกระเป๋า
กระเป๋าเป้ หลากหลายแบบ
กระเป๋าเป้
Settlement Backpack
สีดำ
1600฿
Settlement Backpack
สีดำ
1600฿
กระเป๋าเป้
Pop Quiz Backpack
สีแดง
1800฿
Pop Quiz Backpack
สีแดง
1800฿
กระเป๋าเป้
Classic Backpack
สีเทา
1200฿
Classic Backpack
สีเทา
1200฿
กระเป๋าเป้
Classic Backpack
สีเหลือง
1200฿
Classic Backpack
สีเหลือง
1200฿
กระเป๋าเป้
Standard Backpack
สีดำ
1300฿
Standard Backpack
สีดำ
1300฿
กระเป๋าเป้
Survey Backpack
สีครีม
1600฿
Survey Backpack
สีครีม
1600฿
วิธีดูแลกระเป๋า
✿.。.:*Question : ใช้กระเป๋าเสร็จแล้วควรเก็บเข้าตู้ทันทีหรือเปล่า✿.。.:*Answer : หลังจากใช้งานเสร็จแล้วควรวางกระเป๋าในที่อากาศถ่ายเท เพื่อให้ความชื้นในอากาศที่สัมผัสกับกระเป๋าหายไปบ้าง ผ่านไปหนึ่งวันค่อยหากระดาษแก้วม้วนและพับหลวมๆ พอให้พองเหมือนหมอนตามรูปกระเป๋า หรืออาจใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษใส่ไว้ข้างในแล้วค่อยเอากระดาษแก้ว ห่ออีกที หรือขยุ้มกระดาษแก้วเป็นก้อนเล็กๆเหมือนลูกเทนนิสใส่ไว้ตามมุมกระเป๋าเพื่อ ให้อยู่ทรง ถ้าวางกระเป๋าโดยไม่ใส่กระดาษหนุน ลายของหนังหรือผ้าใบอาจหักเป็นรอยทำให้ดูไม่สวย จากนั้นนำกระเป่าใส่ ถุงผ้า ไม่ต้องปิดมิดชิดมาก แต่ถ้าจะเก็บแบบไม่ใส่ถุงผ้า แนะนำว่าอย่าวางกระเป๋าชิดกัน เพราะความร้อนอาจทำให้หนังติดกันได้
✿.。.:*Question : กระเป๋าถูกฝุ่นจับจะทำความสะอาดอย่างไร✿.。.:*
Answer : ใช้ผ้าแห้งเช็ด หรือใช้ไม้ขนไก่ปัดฝุ่นออก ใช้เครื่องดูดฝุ่นเล็กๆดูดเอาฝุ่นตามซอกตามมุมสนกระเป๋าออก ห้ามใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทั้งในและนอกกระเป๋าเป็นอันขาด เพราะจะทำให้หนังกรอบและเสีย
✿.。.:*Question : หมุดล๊อก ปิด-เปิดกระเป๋าที่ทำจากเงิน เป็นรอยขูดขีด มีสีดำคล้ำ จะแก้ไขอย่างไร✿.。.:*
Answer : รอยดำคล้ำเกิดจากความชื้นในอากาศ ถ้าเป็นทองเหลือง ใช้น้ำยาขัดทองเหลือง แต่บางยี่ห้อเป็นสเตนเลสชุบเงินหลายชั้น ให้ใช้ค้อนต้อนบัดจุ่มน้ำยาเช็ดเงินถูบริเวณที่มีรอยดำ แป๊ปเดียวหาย
✿.。.:*Question : กระเป๋าโดนน้ำกระเซ็นใส่ เป็นรอยด่างควรทำอย่างไร✿.。.:*
Answer : ทางเดียวที่ต้องทำคือรีบกลับไปที่ร้านขายกระเป๋าหรือแผนกเครื่องหนัง ถามหาน้ำยาขัดหนังแบบใส เทลงผ้าขนหนูพับขนาดเท่าฝ่ามือ เกลี่ยน้ำยาให้ทั่วผ้า เช็ดตามลายของหนัง ถ้าลายหนังเป็นแนวตั้ง เช็ดตามแนวตั้ง ถ้าลายเป็นแนวนอน เช็ดตามแนวนอน แต่แนะนำว่า ควรลองเช็คจากก้นกระเป๋าก่อน เพื่อทดสอบว่าน้ำยาไม่ทำให้หนังด่าง ถ้าแน่ใจค่อยเช็ดที่รอยด่าง
✿.。.:* Question : ขอวิธีทำความสะอาดรอยเลอะบนกระเป๋าผ้าใบด้วย✿.。.:*
Answer : ใช้แปรงสีฟันจุ่มน้ำอุ่นขัดเบาๆบริเวณที่เลอะ ใช้ผ้าขนหนูซัดให้แห้ง ห้ามใช้ทิชชูซับเด็ดขาด เพราะจะทำให้ขุยกระดาษทิชชูติดกระเป๋าและเอาออกยาก ถ้ารอยเลอะนั้นเกิดจากดินสอขีดข่วน ใช้ยางลบดินสอก็หายแล้ว
ที่มา : http://www.pantown.com/board.php?id=41721&area=3&name=board2&topic=6&action=view
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)